พระนาคปรก (ใบมะขาม) หลวงปู่เป็น โฆสกาโม สร้างปี พ.ศ. ๒๔๙๒ พร้อมกล่องและกระดาษยันต์เดิมจากวัด

พระนาคปรก (ใบมะขาม) หลวงปู่เป็น โฆสกาโม สร้างปี พ.ศ. ๒๔๙๒ พร้อมกล่องและกระดาษยันต์เดิมจากวัด

หลวงพ่อเป็น โฆสกาโม พระอริยสงฆ์ผู้เรืองกฤตยาคมแห่งแดนอีสานใต้ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๔๗ - พ.ศ. ๒๕๒๑ แห่งวัดเจริญนิมิต บ้านยายคำ ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ท่านได้บวชเรียนพระธรรมวินัย พุทธาคม และพระเวทย์ ที่วัดแจง จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา จนมีความรู้แตกฉานทั้งบาลี สันสฤต และภาษามคธ หลวงพ่อเป็น ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา สำเร็จสมถกรรมฐานและกสิณไฟขั้นสูงสุด ท่านมีความปรารถนาและปฏิปทาเป็นที่สุด ที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนา จากกึ่งพุทธกาลไปจนครบ ๕๐๐๐ ปี
ในปี พ.ศ. ๒๔๙๒ หลวงพ่อเป็นได้จัดสร้างวัตถุมงคลที่มีสำคัญเป็นอย่างยิ่งขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่น นับเป็นเวลาถึง ๒๐ ปี หลังจากที่ท่านได้สร้าง พระสมเด็จปราบมาร คือ พระนาคปรก (ใบมะขาม) แบบพิมพ์มีลักษณะเป็นใบมะขาม ด้าน หน้ามีพญานาคราชห้าเศียรแผ่พังพานปกคลุมเบื้องบนพระเศียรของพระพุทธองค์ เป็นศิลปะแบบเขมร ด้านหลังกำกับด้วยดวงยันต์คุ้มหรือยันต์ร่มเย็น และดวงยันต์พุฒซ่อนเร้น แม้องค์พระจะมีขนาดเล็กแต่พุทธลักษณะชัดเจนงดงาม เป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งในขนาดขององค์พระที่ปรากฏขึ้นในยุคนั้น พระนาคปรก (ใบมะขาม) สร้างจากโลหะสัมฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ผสมกับมวลสารที่มีฤทธานุภาพอยู่ในตัว เช่น ทองลูกบวบ แร่น้ำเงิน ธาตุทรหด ข้าวตอกพระร่วง วัตถุอาถรรพ์ เหล็กไหล และธาตุวิเศษ หลังจากที่หลวงพ่อเป็นได้สร้างพระนาคปรก (ใบมะขาม) เสร็จแล้ว ท่านได้ทำการปลุกเสกอธิษฐานจิตตามพิธีกรรมอันสำคัญศักดิ์สิทธิ์แต่โบราณ ด้วยสมถกรรมฐาน กสิณไฟ และฌานสมาบัติ ที่ท่านได้ฝึกปรืออย่างเอกอุต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า ๒๐ ปี ทำให้การปลุกเสกอธิษฐานจิตพระนาคปรก (ใบมะขาม) มีความเข้มขลัง มีพุทธานุภาพสูงส่งเป็นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าพระนาคปรก (ใบมะขาม) นับเป็นวัตถุมงคลอันล้ำค่าและมีสำคัญเป็นอย่างยิ่งอีกรุ่นหนึ่งในการที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนาจากกึ่งพุทธกาลไปจนครบ ๕๐๐๐ ปี จากนั้นท่านได้อธิษฐานนำไปเก็บรักษาไว้ในสถานที่ลึกลับและศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งเช่น แดนคนธรรพ์ แดนยักษ์ แดนพระฤๅษี แดนพรหมฤๅษี และแดนมหาพรหมฤๅษี
หลวงพ่อเป็น ท่านสร้างพระนาคปรก (ใบมะขาม) ขึ้นมาในความหมายว่าจะเป็นพระที่ ปรกโลก ปรกพุทธศาสนา ปรกแผ่นดิน ปรกชีวิต ให้มั่นคง ร่มเย็น สงบสุข ปราศจากโพยภัยภยันตรายทั้งปวงมากล้ำกราย ดุจดั่งพระพุทธองค์ทรงเสวยวิมุติสุข โดยมีพญานาคราชผู้ทรงบารมี ทรงมหิทธิเดช เปล่งอานุภาพอย่างแรงกล้าเต็มพลังคอยปกป้องคุ้มครองไม่ให้มีสิ่งใดมาแผ้วพานรบกวนได้ ด้วยพุทธบารมีและอานุภาพอันเกรียงไกรยิ่งใหญ่ของพญานาคราช ผู้เทิดทูนบูชาพระพุทธองค์เป็นเอกอุในจักรวาล
พระนาคปรก (ใบมะขาม) มีพุทธคุณทางด้าน ปกปักรักษา คุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน ด้วยอานุภาพของดวงยันต์คุ้มหรือยันต์ร่มเย็น เมื่อพระนาคปรก (ใบมะขาม) ขจรขจายไปในหมู่ชนใด จะทำให้หมู่ชนนั้นมีความปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขร่มเย็น ปราศจากความขัดแย้งที่รุนแรงทั้งปวง และด้วยอานุภาพของดวงยันต์พุฒซ่อนเร้น เมื่อมีการสู้รบในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งจะพรางตัวไม่ให้ศัตรูมองเห็น
ในเดือนพฤศจิกา ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ นับเป็นระยะเวลา ๖๖ ปี หลังจากที่หลวงพ่อเป็นได้สร้างพระนาคปรก (ใบมะ ขาม) เก็บรักษาไว้ ท่านได้มาเข้านิมิตธรรมทายาทของท่าน ให้ไปทำพิธีอัญเชิญนำพระนาคปรก (ใบมะขาม) ออกมากระ จายให้ทั่วแผ่นดิน เพื่อโปรดผู้คนที่มีบุญวาสนามีจิตใจเป็นกุศล มีความเอื้อเฟื้อที่จะทะนุบำรุงสืบทอดพระพุทธศาสนา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากกึ่งพุทธกาลไปจนครบ ๕๐๐๐ ปี พระนาคปรก (ใบมะขาม) จึงได้เริ่มขจรขจายออกสู่สาธารณะชนตามประสงค์ของ หลวงพ่อเป็น โฆสกาโม ผู้สร้างพระนาคปรก (ใบมะขาม) อันล้ำค่านี้ไว้
ปัจจุบันเรียกขาน หลวงพ่อเป็น ว่า หลวงปู่เป็น ด้วยเหตุถ้านับอายุของท่านจนถึงปัจจุบันนี้
คาถาบูชา พระนาคปรกปรก (ใบมะขาม) ของ หลวงพ่อเป็น โฆสกาโม
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (กล่าว ๓ จบ)
พุทธะยะคิ – มะอะอุ – อุอะมะ – ยุตุตุยุ – มะปะชะยะงะ